พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ปูทับพื้นปูนซิเมนต์ พื้นกระเบื้อง

Last updated: 3 พ.ค. 2564  |  15868 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปรียบเทียบข้อดีพื้นไม้เอ้นจิเนียร์กับพื้นไม้จริง

คุณสมบัติของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

  • พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีความทนทานสูง ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ชั้นโครงสร้างพื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นการประสานผิวหน้าไม้จริงกับชั้นไม้อัดกันชื้น การประสานกันช่วยป้องกันการโก่งตัวของตัวแผ่น ตัวแผ่นพื้นไม้อ็นจิเนียร์มีความหนา14มิล
  • ผิวหน้าของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เป็นไม้จริงมีความหนา 3-5 มิล สามารถเลือกชั้นความหนาได้ตามกำหนด (ความหนามาตรฐาน 3 มิล) ชั้นล่างเป็นไม้อัดกันชื้นป้องกันความชื้น ผิวหน้าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทำสีสำเร็จรูปจากโรงงานผลิตและเคลือบทับด้วย Protection Film ทำให้ผิวหน้าทนต่อรอยขีดข่วนและแรงกระแทกได้ดี ลายไม้ของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีความสวยงามด้วยลายไม้ธรรมชาติ ขึ้นกับชนิดไม้ของผิวหน้าที่นำมาผลิต ที่เป็นที่นิยมคือ ผิวหน้าไม้โอ๊ค ไม้ตะแบก และไม้สัก



  • การติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ใช้การปูบนโฟมปรับระดับ ติดตั้งประสานแผ่นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ด้วยระบบคลิกล็อค ติดตั้งได้รวดเร็ว ปูทับพื้นปูนซิเมนต์ได้โดยไม่ต้องขัดมัน หรือปูทับพื้นกระเบื้องเดิมได้ทันที การรื้อเปลี่ยนแผ่นทำได้ง่าย
  • พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ราคารวมติดตั้ง 1,200บาทต่อตร.ม. รวมตรวจพื้นที่หน้างานและแนะนำการเตรียมพื้นก่อนติดตั้ง



เปรียบเทียบพื้นไม้เอ็นจิเนียร์กับพื้นไม้จริง

  • เปรียบเทียบด้านความคงทนของผิวหน้า พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีความคงทนของผิวหน้ามากกว่าพื้นไม้จริง เพราะคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดข่วนมาจากกระบวนการทำสีและการเคลือบ พื้นไม้เอ้นจิเนียร์มีการเคลือบสีสำเร็จรูปจากโรงงานด้วยเทคโนโลยีการเคลือบที่ทันสมัย ซึ่งทนกว่าการทำสีและเคลือบหน้างานจากช่างติดตั้ง
  • เปรียบเทียบด้านการใช้งาน พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นการประสานของไม้จริงกับไม้อัด ป้องกันการโก่งตัวได้100% พื้นไม้จริงแม้จะผ่านการอบของชิ้นไม้ก่อนการติดตั้ง แต่การที่เป็นไม้จริงอาจมีการโก่งตัวของชิ้นไม้จริงหลังการใช้งานได้
  • เปรียบเทียบด้านความสวยงามของผิวหน้า พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีความสวยงามของผิวหน้าที่แสดงลายไม้เหมือนกับพื้นไม้จริงทั้งชิ้น เพราะผิวหน้าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นไม้จริง100% ขึ้นกับชนิดไม้ที่เลือกนำมาทำผิวหน้า
  • เปรียบเทียบด้านราคา พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีราคาประมาณ 1280-2500 บาทต่อตารางเมตรรวมติดตั้ง ขึ้นกับชนิดไม้ ซึ่งมีราคาถูกกว่าพื้นไม้จริงทั้งชิ้น 2500-3500 บาทต่อตารางเมตร
  • เปรียบเทียบด้านความรวดเร็วในการติดตั้งและมาตรฐาน พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ผลิตจากโรงงานขนาดจึงมีมาตรฐานกว่าไม้จริงทั้งชิ้น การติดตั้งใช้การติดตด้วยระบบรางลิ้นหรือคลิกล็อครอบตัวแผ่น ทำให้ติดตั้งได้รวดเร็ว หน้างานมีความสะอาดเรียบร้อย การติดตั้งพื้นไม้จริงใช้การตัดประกอบ ขัดผิวหน้าและทำสีที่หน้างานจริงด้วยช่างติดตั้ง

 

 

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีการติดตั้งได้2แบบ

  • ปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์แบบปูติดกาวPUยึดพื้นชั้นล่าง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์แบบยึกกาวPU มีความแน่นของพื้นไม้มากกว่า พื้นไม้ไม่มีการให้ตัวยึดติดกับพื้นชั้นล่าง ข้อเสียคือการซ่อมแซมจะทำได้ยาก กรณีมีปัญหาต้องรื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทั้งผืน
  • แบบปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์บนโฟมทับพื้นชั้นล่าง ข้อดีของการปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์แบบปูรองโฟมคือสามารถซ่อมแซมได้ง่าย สามารถรื้อและปูใหม่ได้เฉพาะจุด ข้อเสียคือกรณีพื้นไม่ระดับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์จะมีการให้ตัวและยุบตัวได้เมื่อเหยียบสัมผัส

วิธีการเตรียมพื้นผิวก่อนการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

แผ่นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ยึดติดด้วยระบบคลิกล็อค การตรวจสอบพื้นก่อนปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีความสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นไม้ลามิเนตที่ติดตั้งเสร็จแล้วจะไม่มีปัญหาในภายหลัง

1. ติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทับพื้นซิเมนต์ขัดหยาบและพื้นซิเมนต์ขัดมันที่เป็นพื้นใหม่ กรณีปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์แบบบนโฟม พื้นไม้เอ็นจิเนียร์สามารถติดตั้งบนพื้นซิเมนต์ขัดหยาบได้โดยไม่ต้องขัดมัน สำหรับการปูกรณีปูพื้นไม้เอ็นจิเนียร์แบบยึดกาวต้องปูบนพื้นซิเมนต์ขัดมัน ทั้ง2แบบต้องทำการตรวจสอบ 3 ส่วนคือ

1.1 ตรวจสอบความชื้นก่อนติดตั้ง ค่าความชื้นของพื้นก่อนติดตั้งต้องมีความชื้นไม่เกิน5% จากค่าผลทดสอบเครื่องวัดความชื้น

1.2 ตรวจสอบระดับก่อนติดตั้ง ทำการตรวจสอบโดยเครื่องวัดระดับเลเซอร์หรือไม้สามเหลี่ยมวัดระดับ พื้นก่อนติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ต้องมีระดับความเรียบสม่ำเสมอ

1.3 ตรวจสอบความแข็งแรงของผิวหน้าก่อนการติดตั้ง พื้นเดิมก่อนการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ต้องมีความแข็งแรง เป็นพื้นซิเมนต์ขัดหยาบหรือขัดมันเรียบแล้วแต่วิธีการปู ไม่มีการหลุดร่อนของผิวหน้าหรือมีละอองฝุ่นจากผิวหน้า เพื่อให้การยึดติดระหว่างพื้นไม้เอ็นจิเนียร์และพื้นซิเมนต์ยึดติดได้แน่น ไม่หลุดร่อนและให้ตัวหลังการใช้งาน

2. ติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทับพื้นซิเมนต์ขัดมันหรือขัดหยาบที่เป็นพื้นเดิม ทำการตรวจสอบเหมือนข้อ1 เพิ่มเติมคือกรณีกรณีพื้นซิเมนต์เดิมไม่ได้ระดับ ต้องการทำการปรับระดับใหม่โดยการเทปรับระดับ โดยมีข้อควรระวังคือการประสานระหว่างพื้นเทปรับระดับใหม่และพื้นเดิมต้องมีความแข็งแรงและประสานกันได้สนิท100% อีกวิธีการการปรับระดับด้วยการรองพื้นด้วยสมาร์ทบอร์ดหรือวีว่าบอร์ดก่อนการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

3. ติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์กับพื้นSelf Leveling กรณีพื้นซิเมนต์เดิมไม่ได้ระดับและต้องการให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีความเรียบสม่ำเสมอ100% สามารถเลือกใช้วิธีการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทับพื้นSelf Levelingได้ โดยพื้น Self Leveling เป็นการใช้ซิเมนต์ปรับระดับแบบไหลตัวง่าย Self Leveling Mortar เทปรับระดับบนพื้นซิเมนต์ขัดหยาบ ซึ่ง Self Leveling Mortar จะไหลปรับระดับด้วยตัวเองด้วยคุณสมบัติพิเศษ ทำให้พื้นได้ระดับ100% ปรับระดับได้ตวามความหนาที่ต้องการ ความหนาปรับระดับของพื้น Self Leveling ที่ปรับได้ขั้นต่ำ 3 มิลลิเมตร กรณีต่ำกว่าพื้นมีโอกาสแตกร้าวเนื่องจากปรับระดับบางเกินไป ข้อจำกัดคือพื้น Self Leveling มีค่าใช้จ่ายสูง ประมาณ 350 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ขึ้นกับความหนา

4. ติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ทับพื้นกระเบื้องที่เป็นพื้นเดิม พื้นกระเบื้องส่วนใหญ่จะได้ระดับเพราะมีการทำระดับก่อนการติดตั้งพื้นกระเบื้อง และพื้นกระเบื้องมีค่าการป้องกันความชื้นสูง การตรวจสอบความชื้นและระดับพื้นกระเบื้องก่อนการติดตั้งจะทำได้ง่ายกว่าพื้นซิเมนต์ขัดมัน ควรเก็บรอยต่อแผ่นกระเบื้องเดิมด้วยปูนกาวหรือฟุตตี้ที่มีความแข็งแรงสูง เพื่อให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์หลังติดตั้งไม่มีการยุบตัวเมื่อสัมผัส

ชมแบบพื้นไม้กับพื้นห้องนอน คลิก

ชมแบบจากผลงานจริงเพื่อสร้างสรรไอเดียในการออกแบบ


Inspire by FloorD 

093-185-8333 Id Line floord1

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้