ก่อนปูพื้นspc,พื้นกระเบื้องยางและไม้ลามิเนต การเตรียมพื้นชั้นล่างเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ
พื้นชั้นล่างก่อนปูพื้นspcกระเบื้องยาง หรือปูพื้นไม้ลามิเนต ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. ความเรียบเนียนของพื้น : เนื่องจากพื้นไม้ส่วนใหญ่มีขนาดและวัสดุหลากหลาย การติดตั้งส่วนใหญ่มี2วิธี ติดตั้งแบบทากาว และการติดตั้งแบบคลิกล็อคโดยไม่ต้องใช้กาว ในการปรับพื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก พื้นส่วนที่ไม่เรียบเนียน จะทำให้กระเบื้องยางให้ตัวและเกิดความเสียหายได้เมื่อใช้งาน อาจไปถึงการรื้อเพื่อซ่อมแซม ซึ่งเสียเวลาในการรื้อถอน หรือ บางรุ่นกระเบื้องยางจะเสียหายไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ผิวหน้าพื้นชั้นล่างต้องมีความแข็งแรงเรียบเนียน ไม่หลุดร่อน
2. ระดับของพื้นต้องเป็นระดับเดียวกันไม่มีความสูงต่ำ : นอกจากความเรียบเนียนของพื้นแล้ว ระดับของพื้นก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะถึงพื้นจะเรียบเนียน แต่มีความเอียงก็จะทำให้พื้นเป็นแอ่ง หรือ หากพื้นไม่ได้ระดับ พื้นเป็นหลุมเป็นบ่อ เวลาปูพื้นspcและพื้นกระเบื้องยาง จะมองเห็นเป็นคลื่นทำให้ไม่สวยงาม โดยเฉพาะเมื่อปูพื้นspcและพื้นไม้ลามิเนต ที่วัสดุที่มีความแข็งไม่ให้ตัว หากพื้นเป็นคลื่นเป็นแอ่งเมื่อปูไปแล้ว เวลาเดินสัมผัสจะยุบตัว ให้ความรู้สึกได้ ถ้าใช้ไปนานๆการที่พื้นยุบตัวบ่อยๆจะทำให้พื้นเสียหายแตกหักได้ โดยเฉพาะคลิกล็อครอบตัวแผ่นที่มีความบาง ระดับสูงต่ำที่ยอมรับได้ สำหรับการปูพื้นไม้ลามิเนตคือ+-ไม่เกิน3mm และปูพื้นspcคือ+-ไม่เกิน2mm
3. ความสะอาดของพื้น : ไม่มีฝุ่นผง หรือ สิ่งสกปรก : ก่อนปูกระเบื้องลงไป ไม่ว่าจะประเภทไหน ต้องสำรวจให้ดีว่ามีสิ่งแปลกปลอม สิ่งสกปรก อย่างเช่น ฝุ่นผง น็อตตะปูจากการทำงานให้ดีก่อน เพื่อป้องกันปัญหาพื้นขรุขระ ทำให้มีการรื้อพื้นซ่อมแซมเสียเวลาระหว่างวันเพิ่ม
การเตรียมพื้นก่อนปูพื้นspc,พื้นกระเบื้องยาง และพื้นไม้ลามิเนต- .ให้ทำการสำรวจพื้นที่ ที่ต้องการปรับพื้นก่อน : ก่อนเริ่มปรับพื้น ควรสำรวจพื้นที่ก่อนว่ามีลักษณะอย่างไร จึงควรสำรวจพื้นผิวเดิมดูก่อนว่ามีลักษณะอย่างไร จุดไหนควรรื้อออกหรือปูทับได้เลย มีร่องจุดไหน แตกร้าวจุดไหน จะได้ซ่อมแซมให้เรียบร้อย
- รื้อพื้นเดิมที่หลุดร่อนออกให้เรียบร้อย : หากพื้นกระเบื้องเดิมมีความเสียหายหลุดร่อน ห้ามติดตั้งไปเด็ดขาด เพราะพื้นที่ขรุขระไม่เรียบเนียน เสี่ยงต่อความเสียหายในอนาคตอีก หากพบความเสียหายควรรื้อกระเบื้องเดิมออกก่อน ปรับพื้นใหม่เพื่อให้ได้พื้นที่เรียบเหมาะกับการติดตั้ง
- ให้สำรวจรอยแตกร้าวต่างๆ ในพื้นเดิม : กรณีพื้นเดิมเป็นพื้นคอนกรีตมาก่อนสิ่งที่ต้องทำคือสำรวจว่ามีรอยแตกร้าวที่อาจเกิดปัญหาขึ้นตอนติดตั้งหรือไม่ ถ้าหากตรวจพบรอยแตกร้าวให้ซ่อมแซ่มก่อนที่จะทำการติดตั้ง
- ใช้ปูนปรับพื้นก่อน : ต้องบอกเลยว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่สำคัญ เพราะการปรับพื้นก่อนทำการติดตั้งพื้นกระเบื้องยาง และพื้นไม้ลามิเนตเราควรเลือกวิธีที่เหมาะสมเพื่อทำให้พื้นเรียบเนียนโดยการใช้ปูนปรับระดับพื้น เพื่อให้ได้พื้นผิวที่เรียบเนียนสวยงาม เพื่อการใช้งานที่ทนทาน และคงทน เหมือนเป็นการยืดอายุการใช้งานให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- ทำการติดตั้งหลังปูนปรับพื้น1-2วัน ให้ปูนเซ็ทตัวมีความแข็งแรง และคลายความชื้น : หลังจากที่เราสำรวจพื้น สำรวจรอยแตกร้าว และได้ทำการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จนพื้นที่เราจะใช้สำหรับติดตั้งพื้นเรียบเนียน และไร้ปัญหาใดๆที่อาจส่งผลต่อความทนทานในอนาคต ปูนปรับระดับแห้งเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถที่จะติดตั้งพื้นกระเบื้องยาง หรือพื้นไม้ลามิเนตได้
การปรับระดับพื้นก่อนปูพื้นspc,พื้นกระเบื้องยาง และพื้นลามิเนตทำได้ 2วิธี
ปรับพื้นด้วยวิธี (Self Leveling) : การปรับพื้นด้วยการเท Self-Leveling เป็นปูนที่มีลักษณะเหลว และไหลตัวได้ดี เป็นการปรับระดับพื้นให้เรียบเนียน เนื่องจากพื้นเดิมไม่ได้ระดับน้ำ พื้นมีความหยาบดิบ เป็นหลุมบ่อ พื้นอาจจะเคยปรับมาก่อนหรือไม่ไม่เคยก็ได้ แต่ถ้าพื้นไม่ได้ระดับมีความเอียง จำเป็นจะต้องทำการปรับ Self-Leveling ให้พื้นห้องมีความสม่ำเสมอกัน ก่อนที่จะทำการปูพื้นกระเบื้องยาง และพื้นลามิเนตเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาพื้น ยวบ ยุบ เวลาเดิน วัสดุสำหรับการปรับพื้น self leveling
- ปูนปรับระดับพื้น : การเลือกใช้ปูนปรับระดับนั้น เลือกใช้ตามความหนาที่ต้องการที่จะปรับ หรือความหนาที่ต้องการจะเท มีหลากหลายแบรนด์ตามท้องตลาด แบ่งผลิตภัณฑ์ตามความหนาที่ต้องการปรับ โดยแต่ละผลิตภัณฑ์มีปูนปรับระดับตามความหนา
- ความหนา 3-8 มม. : แลงโก้ 173 เซล์ฟ สกิม, Duramax SLM-311, ARDEX K 310
- ความหนา 7-20 มม. : แลงโก้ 123 เซล์ฟ ทิค, Duramax BC-350
- ความหนา 5-30 มม. : แลงโก้ 188 เซล์ฟ โอเวอร์เลย์เมนท์
- ความหนา 40 มม. : จระเข้ เซลฟ์-เลเวลลิ่ง
- น้ำยารองพื้นสำหรับปูนปรับระดับหรือน้ำยาไพร์เมอร์ ใช้ประสานคอนกรีตพื้นชั้นล่างกับปูนปรับระดับself leveling ให้เป็นเนื้อเดียวกันยึดติดไม่หลุดร่อน : แนะนำเลือกใช้น้ำยารองพื้นยี่ห้อเดียวกันกับปูนที่ใช้ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
ขั้นตอนเตรียมพื้นและการเท Self-Leveling- ทำความสะอาดพื้นผิวให้เรียบร้อย
- ขัดพื้นให้ปราศจากเศษปูนและฝุ่น คราบสี น้ำมัน ต่าง ๆ และ ทารองพื้นด้วยน้ำยาไพรเมอร์
- เทปูน Self-Leveling ที่ผสมแล้ว ให้ทั่วพื้นห้อง ทำการเกลี่ยปรับให้เสมอกัน
- เมื่อทำการเกลี่ยปูนให้ทั่วแล้ว จึงทำการไล่ฟองอากาศโดยใช้ลูกกลิ้ง ไล่ฟองจนหมดให้ทั่วและทำการปรับระดับพื้นให้เป็นเนื้อเดียวกัน รอจนพื้นเซตตัวให้แห้งสนิท
ข้อดีการปรับพื้นด้วย Self Leveling- ปรับพื้นผิวหน้าได้เรียบเนียน พื้นได้ระะดับ100% เหมือนระดับผิวหน้าของกระจก ปูนปรับระดับจะไหลได้ระดับเหมือนน้ำด้วยคุณสมบัติของวัสดุ เรียบแข็งเมื่อSetตัว แก้ไขปัญหาพื้นเป็นหลุม เป็นบ่อ พื้นลาดเอียงไม่ได้ระดับน้ำ ใช้งานง่าย เพราะเป็นปูนปรับระดับพื้นที่ผสมเสร็จ เพียงผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่กำหนดก็พร้อมใช้งาน ไหลตัวได้ดี เนื้อปูนลักษณะเหลว สามารถไหลตัวเองได้ดี แทบไม่จำเป็นต้องใช้เกรียงปาดช่วย
- ประหยัดเวลา ด้วยนวัตกรรมสำหรับการปรับระดับพื้นโดยเฉพาะ จึงทำงานได้สะดวกมากขึ้น
- สามารถใช้สำหรับงานพื้นกระเบื้องยางได้ทุกชนิด ทุกแบบ รวมถึงพื้นไม้ลามิเนตด้วย
ข้อจำกัดของการปรับพื้นด้วย Self-Leveling- ปูนแข็งตัวช้า จึงเหมาะแก่การปรับพื้นภายในอาคารเท่านั้น ไม่แนะนำปรับงานภายนอกอาคาร
- ควรหลีกเลี่ยงพื้นผิวที่มีส่วนประกอบของยิปซั่ม
- ห้ามใช้งานอุณภูมิต่ำกว่า 4 องศา และมากกว่า 38 องศาเด็ดขาด
- ในช่วง 2 – 4 วัน ขณะที่รอปูนแห้ง (ปูน Self-Leveling มีความแห้งช้ามาก) ระมัดระวังเรื่อง ฝุ่นหรือเศษของต่างๆ เกาะผิวหน้าปูน Self-Leveling
- การปรับระดับ Self-Leveling มีราคาค่อนข้างสูง 300-350 บาท/ตร.ม. (ปูนปรับระดับ+น้ำยารองพื้น+ค่าแรง)
ปรับพื้นด้วยปูนกาว (Tile Adhesive) : ถูกออกแบบมาไว้ใช้สำหรับการปูกระเบื้องโดยเฉพาะ โดยนำมาปรับใช้ในการปรับระดับ โดยกาวเหนียวให้ยึดเกาะกับพื้นเดิมได้ดีได้ดี ช่วยในการปรับระดับเป็นบางจุดได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
การปรับระดับด้วยปูนกาว- เตรียมพื้นผิวให้แห้งสนิท ไม่มีเศษฝุ่น สิ่งสกปรก ถ้าอยากให้ปูนกาวติดแน่นคงทน ต้องทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณนั้นให้สะอาดเสียก่อน จัดการไม่ให้มีเศษฝุ่น เศษปูน สิ่งสกปรก สี หรือคราบเปื้อนต่างๆ เพราะจะช่วยให้ปูนกาวทำหน้าที่ยึดเกาะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยสำหรับพื้นผิวเดิม ต้องขัดพื้นและฉีดน้ำล้างคราบต่างๆ จนสะอาด กวาดน้ำออกให้หมด จากนั้นรอให้แห้งสนิท ส่วนสำหรับพื้นใหม่ พื้นผิวต้องมีความเรียบ แข็งแรง ได้ระดับสม่ำเสมอกัน หากเพิ่งเทปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มปูนทิ้งไว้ก่อนประมาณ 7 วัน ต่อความหนา 1 ซม.
- ตรวจสอบระดับที่ต้องการด้วยเครื่องตรวจเลเซอร์หรือสามเหลี่ยมตรวจระดับ โดยเน้นระดับสูงต่ำของพื้นไม่เกินค่ามาตรฐานที่ยอมรับได้ของพื้นแต่ละชนิด ตามมาตรฐานของผู้ผลิตงานพื้น (การปูพื้นไม้ลามิเนตคือ +-ไม่เกิน3mm และปูพื้นspcคือ+-ไม่เกิน2mm)
- ทำการปรับพื้นด้วยปูนกาวในระดับที่ต่ำว่า เติมปูนให้เต็มทำการปาดเรียบด้วยเกรียงปาดปูน สำหรับพื้นที่มีระดับสูงกว่าให้ทำการเจียผิวหน้าพื้นออกให้ได้ตามระดับที่ต้องการ
- ทำการตรวจสอบระดับรอบพื้นที่ปูพื้นอีกครั้ง ว่าได้ตามระดับที่ต้องการ ตามค่าการยอมรับได้ ถ้าได้ตามระดับทิ้งพื้นไว้ให้Setตัว ประมาณ1วัน ให้ผิวหน้ามีความแข็งและระเหยความชื้นออกให้หมด ถึงจะเริ่มทำการติดตั้งพื้นได้ในวันถัดไป
ข้อดีการปรับพื้นด้วยปูนกาว- ใช้งานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการใช้งาน
- แรงยึดเกาะสูง ไม่เลื่อนหลุดง่ายทำให้กระเบื้องยึดติดแน่นทนทานมากยิ่งขึ้น และมีอายุการใช้งานยาวนาน
- ใช้ปรับเฉพาะจุดหรือเฉพาะพื้นที่ที่ต้องการปรับได้ สามารถทำงานร่วมกับงานอื่นๆได้ ต่างจากการปรับด้วยพื้นSelf Leveling ที่ต้องปรับเต็มพื้นที่ติดตั้ง
- มีฝุ่นปูนน้อย ใช้พื้นที่ในการเตรียมงานน้อย เหมาะสำหรับการเตรียมพื้นภายในบ้าน
- ปูนsetตัวได้ไว ใช้เวลาในการetตัว1วัน ก็สามารถปูพื้นspc,กระเบื้องยางกระเบื้องยางและพื้นไม้ลามิเนตได้
- การปรับพื้นด้วยปูนกาว ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับการปรับพื้นด้วยวิธี Self Leveling
ข้อจำกัดของการปรับพื้นด้วยปูนกาว
- ใช้ทักษะของช่างในการปรับ เนื่องจากการปรับพื้นด้วยปูนกาว ต้องคำนวณความสูงของพื้นผิวดีๆ ใช้ทักษะของช่างเป็นผู้กำหนดระดับ
- การปรับพื้นด้วยปูนกาวจะปรับพื้นความหนาไม่เกิน 4-5 mm. ความหนาขอพื้นที่ต้องปรับมากกว่า 5mm.ต้องใช้วิธีการปรับด้วย Self-Leveling ซึ่งจะมีราคาสูง
เทียบการปรับพื้นทั้ง2วิธี- ปรับพื้นแบบSelf leveling เหมาะกับงานที่ต้องการระดับพื้นและความเรียบของพื้นให้100% มีงบประมาณ มีการวางแผนงานให้ระยะเวลาในการSetตัวของพื้น
- ปรับพิื้นด้วยปูนกาว เหมาะกับงานที่ต้องการความรวดเร็ว ควบคุมงบประมาณ ยอมรับการให้ตัวของพื้นได้ตามค่าการยอมรับมาตรฐานของผลิตภัณฑ์
สรุปเทียบการปรับพื้นเพื่อปูพื้นspc,พื้นกระเบื้องยาง,พื้นไม้ลามิเนต การเตรียมพื้นจึงมีความสำคัญ สำหรับการการติดตั้งพื้นก่อนปู ไม่ว่าจะเป็นพื้นขนิดใดก็ตาม พื้ันspc,กระเบื้องยาง และพื้นไม้ลามิเนต ต้องทราบข้อแนะนำของผลิตภัณฑ์ว่าพื้นชนิดใด ใช้กับพื้นชั้นล่างแบบใด มีค่าระดับที่ยอมรับได้แตกต่างได้ไม่เกินความหนากี่มิล โปรดจำไว้ว่าการเตรียมพื้นอย่างที่มีคุณภาพเป็นความสำคัญและจำเป็นให้พื้นไม้ใช้งานได้ยาวนาน และถ้าหากไม่มีการเตรียมการที่เหมาะสม คุณจะเสี่ยงต่อค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม เกิดปัญหาตามภายหลังส่งผลกระทั่งการซ่อมแซมที่มีค่าใช้จ่ายสูงตามมาได้
ตอบโจทย์ด้านการออกแบบและการใช้งาน
INSPIRE by FloorD
093-1858-333 Iine@ floord
รวมโปรพื้นไม้รวมติดตั้ง คลิก